เมื่อใดเห็นทุกข์ เมื่อนั้นเห็นธรรม
เห็นทุกข์แล้วจึงเห็นธรรม

ที่จริงคนเรานี้เจอความทุกข์ทุกวันนะ
ตั้งแต่ทุกข์จากความหิว
ทุกข์จากความไม่สะอาดของร่างกายเรานี้
แต่เราคุ้นเคยนะ ทุกข์จากการเจ็บ
เจ็บพอทนได้ แล้วก็ยังไม่รู้สึกอะไรนี่นะ

แต่ว่าคำว่า "เห็นทุกข์" นี้
ต้องเห็นในระดับที่ "อยากตาย" น่ะ
ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่อยากมีชีวิตอยู่
อย่างงั้น อย่างงี้ อะไรนี้
บางทีเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างนี้นะ

ผิดหวังจากความรักอย่างนี้
ที่จริงโชคดีนะ เราจะได้สบายๆ
ไม่มีพันธนาการชีวิต
หนี้เยอะอย่างนี้ เป็นต้น
คิดจะฆ่าตัวตาย

ตอนนั้นนี่นะเป็นจังหวะที่ดีทีเดียว
คือมันจะเบื่อสุดขีดเลย
ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น
ตอนไม่อยากได้อะไรนี่แหละ
ใจมันปล่อยวางแล้ว

เมื่อใด เราไม่อยากได้ในสิ่งใด
เราจะได้เข้าถึงธรรมกายโดยเร็วพลัน

เมื่อใดใจเราไม่อยากได้ในสิ่งใด
ไม่อยากได้อะไรแล้ว
โน้นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา
คน สัตว์ สิ่งของ
อยากตายอย่างเดียว
ตอนนั้นนี่ใจว่างๆ เราต้องชิงช่วงนะ
ก่อนที่เชือกจะช่วงชิงไปก่อน เอาไปผูกคอ

ไปนั่งธรรมะเลย ไปนั่งหลับตานี้นะ
ถ้าใจว่างเมื่อไหร่ ถ้ารู้สึกมันว่างๆ ไม่ติดอะไรแล้ว
มันจะมีอะไรมาให้ดู ได้ดูดวงบ้าง(ดวงบุญในตัว)
มีองค์พระมาให้ดูบ้าง (พระในตัว)
ตรงกลางมันจะเห็นชัดเลย
(ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ)

นี่จ้ะเห็นทุกข์แล้วเห็นธรรม
เขาทำกันอย่างนี้นะ
ไม่ใช่ไปผูกคอตายนะ

ทบทวนโอวาท
หลวงพ่อธัมมชโย
(ุคุณครูไม่ใหญ่)
วัดพระธรรมกาย
27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552

#เห็นทุกข์เห็นธรรม #เมื่อใดเห็นทุกข์เมื่อนั้นเห็นธรรม #เห็นทุกข์ #ทุกข์ #ทุกข์ใจ #ทุกข์เพราะรัก #แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ #ธรรมะเป็นที่พึ่ง #ธรรมะ #ธรรมะเตือนใจ #ธรรมะสอนใจ #ธรรมะกระตุกจิตกระชากใจ #กําลังใจ #หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่ #วัดพระธรรมกาย #โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย #กำลังใจจากหลวงพ่อธัมมชโย
#ความสุข #สมาธิ

https://www.tiktok.com/@dhammakaya.temple/video/7352050622687956231?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7247031974883493381