พระอานนท์เถระได้เล่าประวัติการสร้างบุญในอดีตชาติสมัยพระปทุมุตรพุทธเจ้าไว้ว่า วันหนึ่ง พระมหามุนีพระนามว่าปทุมุตระเสด็จออกจากวัดแล้วทรงบันดาลฝนคืออมตธรรมให้ตก ให้มหาชนสงบเย็น

พระอรหันต์ 100,000 รูป ผู้เป็นนักปราชญ์ สำเร็จอภิญญา 6 มีฤทธิ์มาก แวดล้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดุจเงาติดตามพระองค์

วันนั้นข้าพเจ้าได้นั่งกั้นเศวตฉัตรอันประเสริฐอยู่บนคอช้าง เมื่อได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีพระรูปงดงาม ข้าพเจ้าจึงเกิดความปีติยินดี

ข้าพเจ้าจึงลงจากคอช้างแล้วเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้องอาจกว่านรชน ข้าพเจ้าได้กั้นฉัตรแก้วของข้าพเจ้าถวายพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด

พระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตระ ทรงทราบความดำริของข้าพเจ้า จึงทรงพักการแสดงธรรมกถาไว้แล้วได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

"เราจักพยากรณ์ราชกุมารผู้ที่ได้กั้นฉัตรอันประดับด้วยเครื่องอลังการนี้ ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด ราชกุมารนี้จุติจากมนุษยโลกนี้แล้วจักไปครองสวรรค์ชั้นดุสิต เสวยทิพยสมบัติ มีเหล่านางเทพอัปสรห้อมล้อม จักครองเทวสมบัติ 34 ชาติ (เป็นท้าวสันดุสิต คือ ผู้ปกครองเทวดาชั้นดุสิต)

จักเป็นพระเจ้าแผ่นดินครองแผ่นดิน 108 ชาติ จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 58 ชาติ และจักครองความเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ในแผ่นดิน ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป พระศาสดาพระนามว่าโคดม จักอุบัติในโลก ราชกุมารนี้จักเป็นพระญาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าอานนท์ เป็นอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า

เป็นผู้มีความเพียร มีปัญญารักษาตน เฉลียวฉลาดในพาหุสัจจะ (การฟังและเรียนธรรมะ) ประพฤติถ่อมตน ไม่แข็งกระด้าง เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งปาฐะคือพุทธธรรมทั้งปวง พระอานนท์นั้นมีจิตเด็ดเดี่ยวบำเพ็ญเพียร เป็นผู้สงบระงับ กำหนดรู้กิเลสอาสวะทั้งปวง เป็นผู้ไม่มีกิเลสอาสวะแล้วนิพพาน"

พระอานนท์กล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้มีจิตเลื่อมใส มีใจยินดี นอบน้อมพระพุทธเจ้าทั้งในปฐมยาม มัชฌิมยาม และปัจฉิมยาม เป็นอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด ข้าพเจ้ามีความเพียร มีปัญญารักษาตน มีสติสัมปชัญญะ

ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไปข้าพเจ้าได้สร้างกรรมใดไว้ ข้าพเจ้าได้บรรลุถึงภูมิแห่งกรรมนั้นแล้วศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วมีผลมาก

การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา 3 ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6 (คุณธรรมและคุณวิเศษของพระอรหันต์) ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว

คำอธิบาย และแหล่งอ้างอิง

1. ในยุคนี้บุญที่ควรทำคือ "ถวายร่ม" แม้พระภิกษุส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นสมมติสงฆ์ แต่การทำบุญเป็นสังฆทานก็ยังได้บุญมากดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในทักษิณาวิภังคสูตรว่า "ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์แม้ในเวลานั้นเราก็กล่าวว่ามีผลนับไม่ได้ ประมาณไม่ได้"

สังฆทาน คือ การให้ทานแก่สงฆ์ ทำได้หลายรูปแบบ เช่น ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน สร้างศาสนสถานถวายสงฆ์ เช่น กุฏิ ศาลาโรงฉัน อาคารปฏิบัติธรรม หรือทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ถวายอาสนะ ถวายร่มแก่สงฆ์ หรือนำปัจจัยไทยธรรมไปถวายวัดก็ถือเป็นสังฆทานเช่นกัน

2. พระเจ้าจักรพรรดิคือกษัตริย์ที่มีบุญมาก ปกครองทวีปทั้ง 4 คือ ชมพูทวีป (โลกที่เราอาศัยอยู่) อปรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป และปุพพวิเทหทวีป โดย 3 ทวีปนี้เป็นโลกของมนุษย์ต่างดาวซึ่งอยู่ในอวกาศห่างจากโลกของเรามาก พระเจ้าจักรพรรดิใช้จักรแก้วเดินทางไปยังทวีปเหล่านี้

3. บุญที่ทำให้พระอานนท์เถระได้บรรลุเป็นพระอรหันต์นั้น ไม่ใช่เฉพาะบุญในชาตินั้นอย่างเดียว เป็นผลบุญรวมที่สร้างมาหลายชาติ แต่บุญนั้นท่านประทับใจจึงกล่าวไว้ในประวัติ

4. กัป เป็นหน่วยเวลาชนิดหนึ่งซึ่งนานมาก พระพุทธเจ้าตรัสว่า "กัปหนึ่งนานแล มิใช่ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่า เท่านี้ปี ฯลฯ หรือว่าเท่านี้ 100,000 ปี เหมือนอย่างว่า นครที่ทำด้วยเหล็ก ยาวหนึ่งโยชน์ (16 กิโลเมตร) กว้างหนึ่งโยชน์ สูงหนึ่งโยชน์ เต็มด้วยเมล็ดพันธุ์ผักกาด บุรุษหยิบเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดเมล็ดหนึ่งๆ ออกจากนครนั้นโดยล่วงไปหนึ่งร้อยปีต่อเมล็ด เมล็ดพันธุ์ผักกาดกองใหญ่นั้นถึงความสิ้นไป เพราะความพยายามนี้ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงความสิ้นไป กัปนานอย่างนี้"

5. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม 32 หน้า 98 - 100, พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 26 หน้า 515-516, เล่ม 23 หน้า 395.

Cr.เพจ พม.สมคิด ชยาภิรโต

#พระไตรปิฏก #เข้าพรรษา #072today
0 สาธุ