ทำไมต้องทำบุญให้ผู้ตายในช่วง 7, 50, 100 วัน?
ในครอบครัวของคนไทยเมื่อมีคนตาย มีประเพณีทำบุญ 7, 50, 100 วัน
ที่มาของเรื่องนี้ คือ ความรู้ที่ได้จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ชีวิตในปรโลก(โลกหน้า)
มีความสุขอยู่ได้ด้วยบุญที่ทำตอนเป็นมนุษย์ และบุญที่หมู่ญาติมิตรอุทิศไปให้
ถ้าผู้ตายละสังขารไปด้วยสภาพใจที่ไม่เศร้าหมอง ไม่ผ่องใส กายละเอียดที่ไปเกิดจะหลุดออกมาจากกายหยาบ
ช่วง 7 วันนี้ เป็นช่วงที่รอผลของบุญ และบาปส่งผล
กายละเอียดสามารถรับบุญได้เต็มที่ จึงนิยมรีบทำบุญอุทิศไปให้ เพื่อว่าบุญจะเข้าไปแทรกในใจของกายละเอียด แทนที่ความเศร้าโศก สับสน ให้มีสติระลึกนึกถึงบุญที่เคยทำมา รวมกับบุญที่อุทิศไปให้ จะนำกายละเอียดไปเกิดตามกำลังบุญ
แต่ถ้าบุญที่อุทิศไปให้ยังไม่มากพอ เมื่อครบ 7 วัน เจ้าหน้าที่จากยมโลกจะมาพากายละเอียดไปสู่ยมโลก ซึ่งเป็นนรกขุมบริวาร เป็นสถานที่ตัดสินพิพากษากายละเอียดที่ตายด้วย สภาพใจไม่ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง และบุญ บาปยังไม่ได้ช่องส่งผล
เมื่อผ่านประตูยมโลกแล้ว ต้องไปยืนรอที่ลานกว้าง เพราะมีกายละเอียดจากทั่วโลกไปเป็นจำนวนมาก
ในช่วงนี้ ใช้เวลาประมาณ 50 วันในมนุษยโลก ถ้าทำบุญใหญ่อุทิศไปให้ แล้วบุญมากพอ บุญจะไปช่วยเอากายละเอียดกลับมาเกิดตามกำลังบุญได้
แต่ถ้าบุญยังไม่มากพอ ในช่วง 50-100 วัน เป็นช่วงที่เข้าไปสู่การตัดสินพิพากษาผลบุญ บาป
ถ้าทำบุญใหญ่อุทิศไปให้ ขณะที่กายละเอียดนั่งอยู่หน้าบัลลังก์ รอการพิจารณาจาก
พญายมราช บุญจะไปปรากฎที่จอหน้าบัลลังก์ บุญจะได้ช่องส่งผลก่อน ช่วยเอากายละเอียดมาเกิดในภพภูมิที่ดีขึ้นตามกำลังบุญ
กรณีที่กล่าวมาข้างต้น เฉพาะสำหรับกายละเอียดที่ไปยมโลกเท่านั้น
แต่ถ้าผู้ตายไปเทวโลกแล้ว จะรับบุญได้ทันที ทั้งในช่วง 7, 50, 100 วัน
ถ้าผู้ตายปลูกฝังให้ลูกหลานให้มีศรัทธา ตายแล้วก็ยังได้รับบุญเพิ่ม แต่ถ้าไม่ได้ปลูกฝังให้ลูกหลานให้มีศรัทธา ก็คงต้องร้องเพลง “ยังคอย ยังคอย ยังคอยเธออยู่ ทุกลมหายใจ…” ให้พญายมราชฟัง
#กฏแห่งกรรม #อุทิศบุญ #ตาย #072today