อานิสงส์บูชาพระเจดีย์ทุกวัน

“ข้าพเจ้ามีใจเลื่อมใส ได้ถือเอาดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้ไปบูชาพระสถูปของพระศาสดาด้วยมือของตนเอง เพราะกรรมนั้น รูป คติ ฤทธิ์ และอานุภาพเช่นนี้จึงมีแก่ข้าพเจ้า”

การบูชามี ๒ อย่าง ได้แก่ อามิสบูชาและปฏิบัติบูชา อามิสบูชา คือ การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ มีดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องหอมอาหารหวานคาว และน้ำ เป็นต้น

ส่วน ปฏิบัติบูชา คือ การตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม สร้างคุณงามความดีตามคำสอนและแบบอย่างอันดีงามของผู้ที่เราจะบูชา

ซึ่งพระพุทธองค์เคยตรัสสรรเสริญไว้ว่า การปฏิบัติบูชาเป็นเลิศกว่าอามิสบูชา เพราะบุคคลใดบูชาพระรัตนตรัยด้วยการทำใจหยุดนิ่งให้เข้าถึงรัตนะทั้งสามย่อมได้ชื่อว่าทำการบูชาอันสูงสุด มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่เกินจะพรรณนาได้

อามิสบูชาที่ทำด้วยจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในผู้มีคุณธรรมสูงสุด

เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ ซึ่งเป็นผู้สะอาดหมดจดจากกิเลสอาสวะแล้ว ก็ย่อมมีอานิสงส์มหาศาลเหมือนกัน

การที่เราบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านมหาธรรมกายเจดีย์ทุกวันเป็นประจำ จะก่อให้เกิดอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่มีประมาณทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ

และเป็นการยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นไปตามลำดับ จนกระทั่งถึงนิพพานสมบัติ เพราะผู้ที่เราบูชานั้น ท่านสถิตอยู่ในอายตนนิพพาน

เมื่อใจของเรายกสูงขึ้นในระดับนี้ ก็จะเป็นใจที่สะอาดบริสุทธิ์และผ่องใส เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญที่จะบังเกิดขึ้น

และเนื่องจากพระพุทธเจ้าเป็นอจินไตยธรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นอจินไตย วิบากของผู้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าก็เป็นอจินไตยบุคคลใดมีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใสน้อมจิตบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้าด้วยอามิสบูชาหรือปฏิบัติบูชาก็ตาม

บุญอันบริสุทธิ์ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้นและมีผลานิสงส์มหาศาลทีเดียว จะส่งผลให้พบแต่สิ่งที่ดีงามชีวิตก็จะมีแต่ความสุขสงบร่มเย็นทั้งในภพนี้และภพชาติเบื้องหน้า

ในขณะที่ยังไม่หมดสิ้นอาสวกิเลส ยังต้องท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ ก็จะเป็นผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่แต่ในสองภพภูมิ คือมนุษยโลกและเทวโลก

ขณะอยู่บนเทวโลกก็จะเต็มเปี่ยมด้วยทิพยสมบัติอันโอฬาร ดังเช่นเทพนารีผู้มีอานุภาพมากท่านนี้ ที่ได้ประสบผลบุญอันเกิดจากการบูชาพระเจดีย์ทุกวัน

เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งเมื่อยังเป็นมนุษย์นางเป็นผู้ที่รักบุญมาก ไม่มีวันใดที่จะเว้นว่างจากการสร้างบุญ นางสั่งสมบุญอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ทั้งการให้ทาน รักษาศีล และอบรมจิตใจตนเองด้วยการปฏิบัติธรรม

ครั้งนั้น นางเกิดเป็นลูกสาวของช่างทำดอกไม้ อาศัยอยู่ที่กรุงราชคฤห์ มีชื่อว่าสุนันทา เป็นหญิงที่มีศรัทธาในพระรัตนตรัยมาก

ตั้งใจทำทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรมไม่เคยขาดจนกระทั่งบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันแม้กระนั้นก็ยังเป็นผู้ที่ไม่อิ่มในบุญเลย

หลังจากที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พุทธบริษัททั้งหลายล้วนต้องการนำพระบรมสารีริกธาตุของพระศาสดากลับไปยังบ้านเมืองของตน

เพื่อเก็บไว้สักการบูชาเมื่อนางทราบข่าวว่า พระราชาได้สร้างสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้ประชาชนได้เคารพสักการะ นางก็ตั้งใจว่า แม้พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้วก็ตาม

เราจะเอาบุญกับพระองค์ไม่ให้ขาดเลย นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาสุนันทาอุบาสิกานี้ก็ส่งพวงมาลัยมะลิและของหอมมากมายที่บิดาส่งมา

ให้ ไปทำการบูชาพระเจดีย์ทุกวันไม่เคยขาดเลย โดยเฉพาะทุกวันอุโบสถ นางจะเดินทางไปไหว้พระเจดีย์ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ

ใจของนางคิดแต่เรื่องบูชาพระเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ใจผูกพันและมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์

ต่อมา นางล้มป่วยกะทันหันและสิ้นชีวิตลง ครั้นละจากโลกก็ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในมหาวิมานที่โอฬาร วันหนึ่งเทพนารีสุนันทาได้เข้าไปยังสวนจิตรลดาอันเป็นอุทยานทิพย์และเป็นที่พักผ่อนของเหล่าเทวาทั้งหลาย

ตามปกติ ความอลังการของสวนทิพย์นี้ จะมีรัศมีแห่งดอกไม้ทิพย์รุ่งเรืองสว่างไสวเปล่งประกายนวลไปทั่วอาณาบริเวณ

เมื่อเหล่าเทพบุตรเทพธิดาเข้ามาสู่สวนจิตรลดานี้แล้วจะถูกรัศมีของดอกไม้ทิพย์ที่มีสีสันอันวิจิตรพิสดารนั้นครอบงำ บดบังรัศมีจากเรือนกายอย่างสิ้นเชิง

แต่ทันทีที่เทพนารีสุนันทาเดินเข้ามาในสวนทิพย์ รัศมีของดอกไม้ทิพย์นั้นกลับไม่สามารถบดบังรัศมีจากเรือนกายของเทพนารีสุนันทาเลยแม้แต่นิดเดียว รัศมีของนางยังคงสว่างไสวดังเดิมมิเปลี่ยนแปลงเลย

ท้าวสักกเทวราชจอมเทพเกิดความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก จึงถามเทพนารีสุนันทาว่า “ดูก่อนเทพธิดาผู้มีนัยน์ตางดงาม

เธอชื่ออะไรจึงมีอานุภาพมากอย่างนี้ มีหมู่นางฟ้าแวดล้อมเดินวนเวียนอยู่ในสวนจิตรลดาอันแสนรื่นรมย์รัศมีของเธอสว่างไสวไปทั่วสวนจิตรลดาแสงสว่างของสวนไม่ได้ปรากฏเลยแม้นิดเดียวรัศมีของเธอมาข่มแสงสว่างของสวนนี้ ดูก่อนเทพธิดาผู้รุ่งเรือง นี้เป็นเพราะผลบุญอะไร”

เทพนารีสุนันทาทูลตอบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเทพ ครั้งเมื่อหม่อมฉันเป็นมนุษย์ชื่อว่าสุนันทา เป็นอุบาสิกาอยู่ในกรุงราชคฤห์อันน่ารื่นรมย์ ถึงพร้อมด้วยศรัทธาและศีล

ยินดีในการแจกจ่ายทานทุกเมื่อ มีใจเลื่อมใสในหมู่สงฆ์ผู้ปฏิบัติตรงต่อพระนิพพานได้ถวายผ้านุ่งห่ม ภัตตาหาร เสนาสนะ ประทีปทั้งได้รักษาอุโบสถตลอด ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และ ๘ ค่ำแห่งปักษ์

เป็นผู้ที่สำรวมในศีลห้าเป็นนิจเว้นจากการฆ่าสัตว์ จากการเป็นขโมย จากการประพฤตินอกใจ จากการพูดเท็จ ไกลจากการดื่มน้ำเมา และที่ยิ่งไปกว่านั้น

หม่อมฉันได้ส่งดอกไม้ไปบูชาที่พระสถูปทุกวันไม่ขาดเลยอีกทั้งยังหาโอกาสไปบูชาด้วยตนเองในวันอุโบสถ

ด้วยบุญนี้ทำให้หม่อมฉันมีอานุภาพและด้วยบุญที่บูชาพระเจดีย์ทุก ๆ วัน ทำให้หม่อมฉันได้บรรลุธรรมเป็นพระสกทาคามีก่อนมาบังเกิดในดาวดึงส์พิภพแห่งนี้”

ท่านสาธุชนผู้มีบุญทั้งหลาย อานิสงส์แห่งการบูชาพระเจดีย์ซึ่งเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ แล้วส่งใจไปถึงพระรัตนตรัย ถึงพระพุทธเจ้าแม้เสด็จดับขันธปรินิพพานนานแล้ว

ถึงพระธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์ ถึงพระสงฆ์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเช่นนี้มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ไพศาล

จะอำนวยประโยชน์ทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตระ เมื่อเกิดในโลกนี้ก็จะเต็มเปี่ยมด้วยโลกิยสมบัติ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะทำให้เข้าถึงโลกุตรสมบัติ คือบรรลุธรรมได้โดยง่าย ดังเทพนารีสุนันทาผู้นี้

ดังนั้น ขอให้ทุกท่านหมั่นบูชามหาธรรมกายเจดีย์ ทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาทุกวัน

เพื่อส่งใจไปถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วนในอายตนนิพพานบุญอนันต์จะได้บังเกิดขึ้น

ส่งผลให้สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ทั้งที่เป็มนุษย์สมบัติและสวรรค์สมบัติไปทุกภพทุกชาติตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม

เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙

ขอเชิญ มาร่วมบูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์ทุกๆวัน
0 สาธุ