ในสมัยพระผุสสพุทธเจ้า พระเจ้าพิมพิสารเป็นสมุห์บัญชีของพระราชโอรสของพระราชาพระองค์หนึ่ง ครั้งหนึ่ง ท่านได้ให้บริวารคือกรรมกรจัดเตรียมภัตตาหารเพื่อถวายสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์
บุตรของพวกกรรมกรเหล่านั้น ร้องอยากกินภัตตาหารเหล่านั้น เมื่อภิกษุสงฆ์ยังไม่มาพวกกรรมกรก็เอาภัตตาหารให้แก่บุตรของตน
ต่อมากรรมกรเหล่านั้นอ้างว่า “เราจะให้อาหารแก่พวกเด็ก” แล้วเอาภัตตาหารสำหรับถวายพระสงฆ์ไปกินเสียเอง เมื่อตายจากชาตินั้นแล้วได้เกิดเป็นเปรต เมื่อพ้นจากการเป็นเปรตแล้วก็ไปสู่สุคติบ้างเพราะบุญอื่นๆ แต่ด้วยวิบากกรรมนั้นที่ยังไม่หมด ในกัปนี้ได้ไปเกิดเป็นเปรตอีก 4 พุทธันดร คือ ช่วงระยะเวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสรู้ 4 พระองค์
เปรตเหล่านั้นมีความทุกข์ทรมานและอดอยากหิวโหยมาก วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ ผู้เสด็จอุบัติขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกัปนี้ ทูลว่า “ขอพระองค์โปรดบอกกาลที่พวกข้าพระองค์จะได้กินอาหารด้วยเถิด”
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “พวกท่านจักยังไม่ได้กินอาหารในกาลของเรา แต่เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานจนมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณ 1 โยชน์ (16 กิโลเมตร) พระพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคมนะ จักอุบัติขึ้นพวกเจ้าพึงทูลถามพระองค์เถิด.”
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าโกนาคมนะเสด็จอุบัติขึ้นแล้วเปรตเหล่านั้นจึงทูลถามพระองค์ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ตรัสว่า “พวกท่านจักยังไม่ได้กินอาหารในกาลของเรา แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกยาวนานจนมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณ 1 โยชน์ (16 กิโลเมตร) พระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะจักอุบัติขึ้น พวกเจ้าพึงทูลถามพระองค์เถิด.”
เมื่อพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะเสด็จอุบัติขึ้นแล้ว เปรตเหล่านั้นจึงทูลถามพระองค์ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ตรัสว่า “พวกท่านจักยังไม่ได้กินอาหารในกาลของเรา แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกยาวนานจนมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณ 1 โยชน์ (16 กิโลเมตร) พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมจักอุบัติขึ้น ในกาลนั้น ญาติของพวกเจ้าจักเป็นพระราชาพระนามว่าพิมพิสาร พระราชานั้นจะถวายทานแด่พระศาสดาแล้ว จักอุทิศกุศลให้ พวกเจ้าจักได้กินอาหารในคราวนั้น.
เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานจนพระสมณโคดมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น คืนหนึ่ง พระเจ้าพิมพิสารได้ยินเสียงร้องโหยหวน และเห็นเปรตเหล่านั้นปรากฏกายแก่พระองค์ จึงไปทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศาสดาตรัสว่า “มหาบพิตร ใน 92 กัปจากกัปนี้ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าผุสสะ พวกเปรตนั่นเป็นพระญาติของพระองค์ กินอาหารที่เขาเตรียมถวายภิกษุสงฆ์จึงเกิดในเปตโลก" จากนั้นพระพุทธองค์ ตรัสแนะนำให้พระเจ้าพิมพิสารทำบุญแล้วอุทิศให้เปรตเหล่านั้น
พระราชาจึงทรงนิมนต์ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ถวายมหาทานในวันรุ่งขึ้น แล้วได้พระราชทานส่วนบุญว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอข้าวน้ำอันเป็นทิพย์จงสำเร็จแก่พวกเปรตเหล่านั้น”
ข้าวน้ำอันเป็นทิพย์จึงเกิดแล้วแก่พวกเปรต วันรุ่งขึ้น เปรตเหล่านั้นเปลือยกายแสดงตนแก่พระราชา พระราชาจึงทูลแก่พระศาสดาว่า “วันนี้พวกเปรตเปลือยกายแสดงตน พระเจ้าข้า” พระศาสดาตรัสว่า “มหาบพิตรพระองค์มิได้ถวายผ้า”
วันรุ่งขึ้น พระราชาจึงถวายผ้าจีวรแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขแล้วทรงอุทิศบุญว่า “ขอผ้าอันเป็นทิพย์ทั้งหลายจงสำเร็จแก่เปรตเหล่านั้น” ในขณะนั้นเอง ผ้าทิพย์เกิดขึ้นแก่พวกเปรต และเปรตเหล่านั้นก็พ้นจากกรรมได้เป็นเทวดาในบัดนั้น
อ้างอิง : พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 40 หน้า 136 - 142
Cr.เพจ พม.สมคิด ชยาภิรโต
#พระไตรปิฏก #ผู้นำแสงสว่างออนไลน์ #072today