ปัจจุบันชาวโลกจำนวนมาก เชื่อกันว่า หากต้องการประสบความสำเร็จนั้น จะเก่งเพียงอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องเฮงด้วย

เก่ง หมายถึง มีความรู้และความสามารถดี ซึ่งเกิดขึ้นจากการหมั่นศึกษาและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ

ส่วน เฮง หมายถึง โชคดี หรือ ดวงดี แต่อะไรคือสาเหตุของความเฮง อะไรเป็นเหตุให้ดวงดี ทำอย่างไรเราจึงจะเฮงกับเขาบ้าง ปัญหานี้ไม่ค่อยมีใครทราบ ชาวโลกจำนวนมากจึงฝากชีวิตไว้กับหมอดูดวงชะตา ฝากชีวิตไว้กับการโคจรของดวงดาวบนท้องฟ้า

จริงๆแล้วในทางพระพุทธศาสนา ก็มีการสอนให้ดูดวงเหมือนกัน และ ยังสอนวิธีการทำให้ดวงดีขึ้นด้วย แต่ดวงในที่นี้ คือ ดวงบุญในตัวของเราเอง ซึ่งเป็นดวงที่ควรดู เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยเกื้อหนุนให้เราประสบความสุขความสำเร็จในชีวิตและในหน้าที่การงาน

ดวงบุญนั้นมีลักษณะ กลมใส สถิตอยู่ ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 ซึ่งอยู่บริเวณกลางท้องของมนุษย์ทุกคน จะเห็นได้ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

ดวงบุญนั้นจะเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเราทำความดี ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เป็นต้น ยิ่งเราทำความดีมากเท่าไร ดวงบุญในตัวของเราก็จะดียิ่งขึ้นเท่านั้น กล่าวคือ จะโตใหญ่ขึ้น จะใสสว่างขึ้น และจะมีอานุภาพมากยิ่งขึ้น

เศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ดวงดาวบนท้องฟ้าจะโคจรอย่างไร ก็ปล่อยมันไป ขอให้เราหมั่นสั่งสมบุญและนึกถึงดวงบุญบ่อยๆ แล้วชีวิตของจะดีขึ้นไปตามลำดับ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา, สุขัญเจตัง อะธิวัตตะติ แปลว่า ความเป็นผู้ทำบุญมาก่อน, ความสุขย่อมพรั่งพรู คือ แผ่ลงมาสู่บุคคลนั้น หมายความว่า ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ในอดีตชาติ รวมทั้งบุญทุกบุญที่ทำในชาตินี้ บุญจะเกื้อหนุนให้ผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข

ในจูฬกัมมวิภังคสูตรพระพุทธองค์ตรัสถึงอานิสงส์ของการทำบุญให้ทานไว้ว่า "บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม ที่เป็นผู้ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ผ้า ให้ยานพาหนะ ให้ดอกไม้ ให้ของหอม ให้เครื่องลูบไล้ ให้ที่นอน ให้ที่อยู่อาศัย ให้เครื่องตามประทีป แก่นักบวชคือพระภิกษุสามเณร เขาตายไปจะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใด จะเป็นคนมีโภคทรัพย์มาก"

หมายความว่า บุญที่เกิดจากการให้ทำบุญให้ทานดังกล่าวนั้น จะส่งผลให้บุคคลนั้นๆได้เกิดในตระกูลเศรษฐีบ้าง หรือแม้ไม่ได้เกิดในตระกูลเศรษฐีแต่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน สร้างเนื้อสร้างตัวได้ในธุรกิจที่ตนเองทำ หรือรวยด้วยเหตุอื่นๆ บางคนได้มรดกจากเศรษฐีที่ไม่มีทายาท เป็นต้น โลกและชีวิตนี้ไม่มีอะไรบังเอิญทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรม เป็นไปตามบุญบาปที่แต่ละคนทำมาทั้งสิ้น

* อ้างอิง : พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 35 หน้า 116, เล่ม 23 หน้า 255
Cr.เพจ พม.สมคิด ชยาภิรโต
#ธรรมะ #ผู้นำแสงสว่างออนไลน์ #072today