“วิธีแผ่เมตตา”

ท่านอธิบายไว้หลายแนว โดยเฉพาะในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งในที่นี้จะย่อมากล่าวแต่เพียงบางส่วนเท่านั้น คือ

-ครั้งแรก- ให้แผ่เมตตาไปในตัวเราก่อน คือ ในตนเองก่อน ที่เราต้องแผ่ให้ตัวเองก่อน ก็เพื่อทำเราให้เป็นพยานว่าเรานั้น รักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด แม้บุคคลอื่นสัตว์อื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ ฉันนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ควรเบียดเบียนตนเอง นี้คือทำตนให้เป็นพยานก่อน

-ต่อจากนั้น- ท่านบอกว่าให้แผ่เมตตาไปในบุคคลที่เรารัก เมตตาจิตจึงแผ่ไปได้ง่าย อย่าพึ่งแผ่ไปในศัตรูเสียก่อน เพราะจิตนั้นยังกระด้างอยู่ การแผ่ไปในบุคคลที่เรารัก เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือที่เรารักมีความรักใคร่เกี่ยวข้อง เมตตาจิตนี้ก็เป็นไปได้ง่าย ...

เมื่อเมตตาจิตเป็นไปสะดวกในบุคคลที่เรารัก แล้วก็แผ่ไปในบุคคลที่เป็นกลางๆ คือ ที่เราไม่รักไม่เกลียด จิตใจก็เป็นไปได้ง่าย เพราะเราไม่มีเวรไม่มีภัยกับผู้นั้น เมื่อจิตเป็นไปคล่องแล้ว ต่อจากนั้นให้แผ่เมตตาจิตไปในบุคคล ที่เป็นศัตรู คอยจองล้างจองผลาญกับเราอยู่

การแผ่เมตตานี้ เป็นการฝึกใจตัวเราเองอย่างหนึ่งด้วย เมื่อเราหมั่นแผ่เมตตาไปแล้ว ในคติพุทธว่าไว้ว่าเราก็จะเป็น ที่รักของสรรพสัตว์ นอกจากนี้บุญมีจริง กุศลกรรมมีจริง กุศลของเราที่ดีแล้ว ก็อาจสามารถนำไปช่วยผู้อื่นที่เขา ไม่ได้มาเจริญกุศลอย่างเรา หรือไม่ได้มีโอกาสมาพบ แก่นพระธรรมอย่างเราๆ ใครๆ ก็แผ่เมตตาได้ ขอเพียงให้มีใจเมตตาอยากจะแผ่ออกไปด้วยบริสุทธิ์ใจจริงๆ ตามกำลัง ของตนเท่านั้นนั่นก็พอแล้ว

Cr.ดับทุกข์ด้วยธรรม
0 สาธุ