“กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป บุคคลเล็งเห็นภัยในมรณะนี้ พึงมุ่งต่อสันติ ละโลกามิสเสีย” อัจเจนติสูตร

วันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว นำเอาความชรามาสู่ตัวเรา ความตายก็รุกคืบใกล้เข้ามาทุกขณะ ชีวิตมนุษย์มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ไม่ช้าต้องเสื่อมสลายไป สิ่งต่างๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นบุตร ธิดา ทรัพย์สินเงินทอง ญาติพี่น้อง ไม่อาจติดตามตัวเราไปปรโลกได้ มีแต่บุญกุศลที่สั่งสมไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นดั่งเงาติดตามตัวเราไป นักปราชญ์ในกาลก่อน ท่านจะสอนว่า ยศและลาภหาบไปไม่ได้แน่ เหลือไว้แต่ต้นทุนบุญกุศล ทิ้งสมบัติทั้งหลายให้ปวงชน ร่างของตนเขาก็เอาไปเผาไฟ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพิจารณาลึกซึ้งยิ่งไปกว่านั้นอีกว่า การจะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้น ต้องละคลายจากโลกามิส ซึ่งเป็นเหยื่อล่อของพญามาร ที่ทำให้หลงเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏอันหาเบื้องต้นท่ามกลางและที่สุดไม่ได้ เบญจกามคุณทั้งห้านี่แหละคือเหยื่อล่อที่ทำให้ติดข้องอยู่ในภพทั้งสาม เหมือนปลาติดเบ็ดของนายพราน จะหลุดพ้นจากวังวนของชาติชรามรณะนี้ได้ ต้องมุ่งสู่สันติคือการฝึกฝนใจให้สงบหยุดนิ่งเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย หลวงพ่อธัมมชโย"

#เพจพุทธพจน์เตือนใจ
#ธรรมะเพื่อประชาชน #ธรรมะ #คำสอนมหาปูชนียาจารย์ #ผู้นำแสงสว่างออนไลน์ #072today
0 สาธุ