ยุคนี้เป็นช่วง "ขัยลง" หมายถึง เป็นยุคที่มนุษย์มีอายุขัยลดลงเรื่อยๆ กล่าวคือ เมื่อเวลาผ่านไป 100 ปี อายุมนุษย์จะลดลง 1 ปี ๆๆๆๆๆๆ โดยสมัยพุทธกาลเมื่อ 2,500 กว่าปีที่แล้ว มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ย 100 ปี แต่ในปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์เหลือประมาณ 75 ปี และอายุจะลดลงไปเรื่อยๆเมื่อถึง พ.ศ. 9000 มนุษย์จะมีอายุขัยเฉลี่ยเพียงแค่ 10 ปี เท่านั้น

ในเมื่อมนุษย์มีอายุ 10 ปี เด็กหญิงมีอายุ 5 ปี เป็นวัยที่แต่งงานมีสามีได้ ยุคนั้นเนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือ จักอันตรธานไปสิ้น อาหารการกินแบบปัจจุบันไม่มี จะเป็นอยู่ลำบากมาก

ในเมื่อมนุษย์มีอายุ 10 ปี กุศลกรรมบถ 10 จักอันตรธานไปหมดสิ้น กุศลกรรมบถ ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้าย และสัมมาทิฐิคือเห็นชอบตามคลองธรรม

ในเมื่อมนุษย์มีอายุ 10 ปี แม้แต่คำว่า "กุศล" ก็ไม่มี แล้วคนทำกุศลจะมีแต่ที่ไหน คนทั้งหลายจักไม่ปฏิบัติชอบในมารดา จักไม่ปฏิบัติชอบในบิดา จักไม่ปฏิบัติชอบในสมณะ (นักบวช) จักไม่ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล

ในเมื่อมนุษย์ทั้งหลายมีอายุ 10 ปี มนุษย์จักไม่มีจิตคิดเคารพยำเกรงว่า นี่แม่ นี่น้า นี่พ่อ นี่อา นี่ป้า นี่ภรรยาของอาจารย์ หรือว่านี่ภรรยาของท่านที่เคารพทั้งหลาย จักสมสู่ปะปนกันหมดเปรียบเหมือนแพะ ไก่ สุกร สุนัขบ้าน หรือสุนัขจิ้งจอก

ในเมื่อมนุษย์มีอายุ 10 ปี มนุษย์ต่างเกิดความอาฆาต ความพยาบาท ความคิดร้าย ความคิดจะฆ่าอย่างแรงกล้าในกันและกัน มารดากับบุตรก็ดี บุตรกับมารดาก็ดี บิดากับบุตรก็ดี บุตรกับบิดาก็ดี พี่ชายกับน้องหญิงก็ดี น้องหญิงกับพี่ชายก็ดีจักเกิดความอาฆาต ความพยาบาท ความคิดร้าย ความคิดจะฆ่ากันอย่างแรงกล้า

ในเมื่อมนุษย์มีอายุ 10 ปี จะเกิด "สัตถันตรกัป" 7 วัน คือ มนุษย์จักสำคัญกันและกันว่าเป็นสัตว์ จะฆ่ากันเองโดยสำคัญว่า นี้สัตว์ คนทั่วโลกจะจับอาวุธฆ่ากันตายจำนวนมาก แต่จะมีคนบางพวกคิดว่า พวกเราอย่าฆ่าใคร ๆ และใคร ๆ ก็อย่าฆ่าเรา แล้วจะหลบเข้าไปตามสุมทุมพุ่มไม้ หรือซอกเขา มีรากไม้และผลไม้ในป่าเป็นอาหาร

เมื่อล่วง 7 วันแล้วพวกเขาจะออกจากที่ซ่อน เมื่อเจอกันต่างสวมกอดกันและกัน ปลอบใจกันในที่ประชุมว่า ท่านยังมีชีวิตอยู่หรือ ๆ แล้วมนุษย์เหล่านั้นจะคิดว่า เราสิ้นญาติอย่างใหญ่เห็นปานนี้เพราะการทำอกุศลกรรม เราควรทำกุศลคือควรงดเว้นจากการฆ่า เป็นต้น

เมื่อมนุษย์ตั้งใจสร้างกุศลกรรมต่างๆ ได้แก่ กุศลกรรมบถ 10 บุญจะส่งผลให้มนุษย์มีอายุยืนขึ้น คือ เมื่อเวลาผ่านไป 100 ปี อายุเพิ่มขึ้น 1 ปี ผ่านไป 100 ปี อายุเพิ่มขึ้น 1 ปี ไปเรื่อยๆ จากมนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยแค่ 10 ปี ก็เพิ่มเป็น 11 ปี.... 100 ปี.... 1,000 ปี .... 10,000 ปี .... 100,000 ปี.... จนอายุขัยของมนุษย์ยืนนานถึง 1 อสงไขยปี คือ อายุยืนมากจนนับจำนวนปีไม่ได้ จะเป็นอยู่อย่างนี้ยาวนานแล้วอายุขัยของมนุษย์จะเสื่อมลงหรือลดลงอีกเป็นวัฏจักร

ก่อนเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ธรรมเป็นพระสมณโคดมพุทธเจ้า มียุคหนึ่งที่พระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า มันธาตุราช มีพระชนมายุ 1 อสงไขยปี พระองค์ปกครองทวีปทั้ง 4 โดยมีเมืองราชคฤห์แคว้นมคธในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครอง

คำอธิบาย และแหล่งอ้างอิง

1. สาเหตุสำคัญที่ทำให้อายุขัยของมนุษย์ลดลงเรื่อยๆ คือ การทำอกุศลกรรม งดเว้นจากกุศลกรรมบถ 10 ทำผิดศีลกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และสาเหตุสำคัญที่ทำให้มนุษย์มีอายุขัยยืนขึ้น คือ การรักษาศีล ประพฤติธรรม การปฏิบัติตามกุศลกรรมบถ 10

ดังนั้น ผู้รู้จึงแนะนำว่า ถ้ายุคนี้มนุษย์ตั้งใจรักษาศีล ประพฤติธรรม ปฏิบัติตามกุศลกรรมบถ 10 อย่างแพร่หลายและมากพอ อายุขัยของมนุษย์ก็จะไม่ลดลงจนถึงยุคที่มนุษย์มีอายุเพียง 10 ปี แต่อายุของมนุษย์จะเพิ่มขึ้น เข้าสู่ยุค "ขัยขึ้น" ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สัตถันตรกัป ซึ่งจะมีฆ่ากันตายทั่วโลกก็จะไม่เกิดขึ้น แต่การสวนกระแสและวัฏจักรโลกเกิดขึ้นยากมาก

2. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 79 หน้า 213 (อรรถกถาพระอภิธรรมปิฎก) , เล่ม 15 หน้า 99 - 123 (จักกวัตติสูตร), เล่ม 58 หน้า 74-79 (อรรถกถามันธาตุราชชาดก), เล่ม 11 หน้า 337 (อรรถกถาสามัญญผลสูตร).

Cr. เพจ พม.สมคิด ชยาภิรโต

#กฏแห่งกรรม #ธรรมะ #ผู้นำแสงสว่างออนไลน์ #072today
0 สาธุ