ความดีใจเสียใจ

ความดีใจจะให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เข้าไปแต่งแล้ว เสียใจหละ ไม่สมเจตนาก็เสียใจหละ

ดีใจเสียใจแว่บเข้าไปเป็นขุ่นมัวทีเดียว
ประเดี๋ยวก็ต้องถอยออกมา ทีนี้ก็ฝันไม่ได้ ก็ต้องเลิกกัน

เพราะฉะนั้นความดีใจเสียใจนี้ร้ายนัก
ไม่ใช่ร้ายแต่ เมื่อเวลาปฏิบัติธรรม เห็นธรรมอย่างนี้นะ

ถึงเวลาเราดีๆอยู่
อ้ายความดีใจเสียใจนี่แหละ
ที่ทำให้ต้องกระโดดน้ำตาย
กินยาตาย ผูกคอตาย ดีใจเสียใจนี้แหละ
มันเต็มขีดเต็มส่วนของมันบังคับอย่างนี้
เพราะฉะนั้นความดีใจเสียใจ เป็นมารร้ายทีเดียว

ถ้าว่าใครให้เข้าไปอยู่ในใจ บ่อยเข้า
ก็หน้าดำคร่ำเครียด ร่างกายไม่สดชื่นละซิ
เศร้าหมองไม่ผ่องใสหรอก

เพราะอะไร เพราะดีใจเสียใจบังคับ
มันทำให้เดือดร้อน หน้าดำคร่ำเครียดทีเดียว
บางคนไม่อ้วน ผอมเป็นเกลียวทีเดียว
เพราะความดีใจเสียใจทั้งหมด อยู่ที่มันไม่ปล่อยมันไป

ถ้าว่าทำให้สบายสดชื่น ให้ชื่นใจ
เย็นอกเย็นใจสบายใจ จะมั่งมีดีจนอย่างไรก็ช่าง
ทำใจให้เบิกบานไว้ ทำใจให้สบายไว้
ร่างกายมันก็ชุ่มชื่นสบาย

นี่อ้ายดีใจเสียใจ มันฆ่ากายมนุษย์อยู่อย่างนี้
กายมนุษย์ละเอียดก็ฆ่า กายทิพย์ก็ฆ่า
กายทิพย์ละเอียดก็ฆ่า ฆ่าทั้งนั้นทุกกาย
ความดีใจเสียใจต้องคอย ระวังไว้ให้ดี

ท่านจึงได้สอนนักว่า
“ให้ทำความดีใจและเสียใจในโลกเสียให้พินาศ”

พระธรรมเทศนา : สติปัฏฐานสูตร
เทศนาเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๗
#พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) #หลวงพ่อวัดปากน้ำ
0 สาธุ